สมาร์ทโฟน หรือ โทรศัพท์มือถือ คือ อุปกรณ์ที่แทบจะห่างจากตัวไม่ได้ของคนในยุคปัจจุบัน จนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้ว ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องพกพาไปด้วย การใช้งานแทบตลอดเวลา ทำให้แบตโทรศัพท์หมดไว และต้องชาร์จบ่อยขึ้น แต่ถ้าแบตหมดในขณะอยู่บนรถ แน่นอน เราย่อมต้องชาร์จมือถือกันในรถ เพื่อให้เจ้าอวัยวะที่ 33 ของเรามีแบตพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หลายคนอาจเคยได้ยินว่าให้ระวังชาร์จแบตในรถยนต์ทำให้แบตเสื่อมไว หรือเสียบที่ชาร์จแบตมือถือในรถยนต์ไว้ตลอดเวลา อาจทำให้ที่ชาร์จแบตระเบิด จนเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
เราได้รวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการชาร์จแบตในรถอย่างไรให้ปลอดภัย เพราะเชื่อว่าหลายคนกำลังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ การที่ยังไม่เกิดเหตุร้ายอะไรย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น ดังนั้น ควรใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างระมัดระวังอยู่เสมอ เพราะความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะ
เสียบที่ชาร์จแบตในรถยนต์เป็นอันตรายไหม
รู้ไหมว่า การชาร์จแบตในรถด้วยการเสียบ Car charger ที่ช่องจุดบุหรี่ ทำให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะใครที่ชอบเสียบที่ชาร์จแบตในรถยนต์ทิ้งค้างไว้ เสียบเล่นมือถือขณะที่เสียบชาร์จแบต หรือใช้ car charger ไม่ได้มาตรฐาน และไม่มีคุณภาพ เมื่อใช้งานอาจทำให้ฟิวส์ขาด หรืออุปกรณ์เสียหาย เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนทำให้เกิดการระเบิดและไฟไหม้รถ ดังที่เป็นข่าวให้เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ หลายคนอาจเลือกที่จะชาร์จแบตมือถือด้วยการใช้ Power bank หรือ เสียบชาร์จแบตมือถือที่ช่อง USB แทน เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า แต่ถ้าใครที่ใช้รถรุ่นที่ไม่มี USB และไม่มี Power bank ใช้ชาร์จแบตในรถ ก็ใช้วิธีเสียบ Car charger กับช่องจุดบุหรี่แบบดั้งเดิม แต่ควรใช้ให้ถูกวิธี และระมัดระวังในการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
ดับเครื่องรถยนต์ แต่ชาร์จแบตคารถได้ไหม
สามารถชาร์จแบตในรถ ไม่สตาร์ทเครื่องได้ไหม หรือ เสียบคาที่ชาร์จแบตไว้แต่ดับเครื่องยนต์จะเป็นอันตรายไหม บอกได้เลยว่าการทำเช่นนั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะจุดประสงค์ดั้งเดิมในการติดตั้งช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์ เพื่อไว้สำหรับการจุดบุหรี่ให้ติดเท่านั้น แต่ปัจจุบันช่องจุดบุหรี่จะถูกใช้ในเพื่อชาร์จแบตมือถือ ลำโพง พัดลม และอุปกรณ์อื่น ๆ แทน โดยกระแสไฟฟ้าที่ใช้จะมาจากแบตเตอรี่รถยนต์ และการสตาร์ทรถยนต์จะต้องใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่สูง เพื่อให้กระแสไฟไปกระตุ้นเครื่องยนต์ทำงาน หากขณะนั้นมีการเสียบที่ชาร์จแบตทิ้งไว้ในรถ กระแสไฟจากแบตเตอรี่จะวิ่งไปยังที่ชาร์จแบตที่เสียบคาไว้ อาจทำให้ที่ชาร์จระเบิด และถ้ายิ่งเสียบที่ชาร์จพร้อมกับมือถือไว้ด้วยกัน ยิ่งอาจทำให้แบตเตอรี่มือถือระเบิดและไฟไหม้ในรถ
ชาร์จโทรศัพท์ในรถ แบตเสื่อมไวจริงไหม
โดยปกติแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี แต่ถ้ามีการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ดี ๆ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่อาจใช้ได้นานถึง 5 ปี แต่ถ้าชาร์จแบตมือถือในรถเป็นประจำ อาจทำให้กระทบต่อกระแสไฟฟ้าของแบตตเตอรี่ลดลงบ้าง และถ้าเสียบที่ชาร์จแบตคาทิ้งไว้ในรถ จะส่งผลให้รถสตาร์ทติดยาก หรือเกิดกระแสไฟกระชากขณะสตาร์ทรถ จนส่งผลต่อแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมเร็วขึ้น
วิธีชาร์จแบตโทรศัพท์ในรถยนต์ถูกต้องและปลอดภัย
- ก่อนจะชาร์จแบตมือถือ ควรสตาร์ทเครื่องรถยนต์ก่อน อาจขับเคลื่อนรถไปเล็กน้อย หรือเปิดแอร์ไว้สักพัก เพื่อให้กระแสไฟฟ้ามีความคงที่ แล้วจึงค่อยเสียบที่ชาร์จมือถือ เพราะหากมีการชาร์มสมาร์โฟนคาไว้ หรือเสียบชาร์จขณะสตาร์ทรถที่กระแสไฟฟ้ามีกำลังกระชากสูง อาจทำให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่มือถือมากเกินไป จนทำให้แบตเตอรี่มือถือเสื่อม หรือเกิดระเบิดจนได้รับความเสียหายได้
- อย่าเสียบที่ชาร์จแบตคาทิ้งไว้ในรถเด็ดขาด ถึงแม้จะดับเครื่องยนต์ก็ตาม ควรถอด Car charger ออกจากช่องบุหรี่ทันทีหลังจากที่แบตมือถือเต็ม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากที่ชาร์จระเบิด
- ไม่ควรชาร์จมือถือ หรืออุปกรณ์พร้อมกันหลายเครื่อง เพราะกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ไม่คงที่เหมือนกับไฟฟ้าบ้าน การพ่วงอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันในรถจะทำให้แรงดันในรถไม่คงที่ อาจทำให้เกิดไฟกระชาก ส่งผลเสียต่อแบตมือถือ อายุการใช้งานแบตเตอรี่เสื่อม และมีความเสี่ยงที่จะทำให้รถเกิดการระเบิดได้
- เลือกใช้อุปกรณ์โทรศัพท์ที่มีมาตรฐาน เป็นของแท้ และมีคุณภาพ
- ควรเลือกใช้ Power Bank ชาร์จมือถือ แทนการใช้ช่องจุดบุหรี่ หรือ ถ้าใช้รถรุ่นที่มีช่อง USB ควรเลือกใช้แทนช่องจุดบุหรี่เช่นกัน เพราะปลอดภัยกว่า และควรเลือกใช้พาวเวอร์แบงค์แท้ คุณภาพดี มีมาตรฐานรองรับ และระวังอย่าให้ Power bank ตากแดดหรือโดนความร้อน เพราะอาจเกิดอันตรายได้เช่นกัน