12 ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเยอรมนี มีอะไรบ้าง
หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้หารือเจรจาฟรีวีซ่าเข้าเยอรมนี กับนาย Tobias Lindner รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมรี ในครั้งประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 เชื่อว่าคนไทยที่ชอบท่องเที่ยวหลายคนกำลังรอฟังข่าวดีนี้อยู่ ซึ่งผลจะออกมาเป็นเช่นไร และคนไทยจะได้ฟรีวีซ่าเข้าเยอรมนีจริงไหมและเมื่อไรนั้น แต่ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวเยอรมนี แอดมินได้รวบรวมข้อควรรู้ และควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้าประเทศเยอรมนีมาฝากในบทความนี้แล้ว
12 ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเยอรมนีมีอะไรบ้าง
1. ห้ามนำเงินสด หรือสิ่งตัวแทนเทียบเท่าเงินสด เช่น บัตร เช็คเงินสด เข้าประเทศเยอรมนีเกิน 10,000 ยูโร / คน หากพกเกินกว่าที่กำหนดไว้ ต้องแจ้งกับศุลกากรก่อนเสมอ
2. ควรพกเงินสดติดตัวตลอดการท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนี ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมือง เพราะสถานที่ประกอบพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนใหญ่ ไม่รับบัตรเครดิต หรือบางแห่งจะรับบัตรเฉพาะ EC Karte ที่มีลักษณะคล้ายบัตรเดบิตของไทย
3. ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ในเยอรมนี ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า จะรวม VAT เอาไว้เรียบร้อยแล้ว และส่วนใหญ่จะไม่มีการคิด service charge เพิ่ม การให้ทิปไม่มีการบังคับ ให้หรือไม่ให้ตามความพอใจของผู้ใช้บริการ
4. Tax refund จะไม่ได้คืนเต็มจำนวน แต่จะได้แบบค่อย ๆ ทยอยคืนเป็นขั้นบันได และต้องมีการสั่งซื้อสินค้าขั้นต่ำตั้งแต่ 50.01 ยูโร ขึ้นไป
5. ควรถ่ายภาพหรือทำสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง และหน้าที่มีรายละเอียดวีซ่าเอาไว้เป็นดิจิตอล หรือจะส่งเป็นไฟล์เก็บไว้ในอีเมล์ และควรมีไว้ในมือถือเพื่อพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย เผื่อในกรณีหนังสือเดินทางสูญหาย เรายังมีข้อมูลครบถ้วนไว้ทำพาสปอร์ตและวีซ่าเล่มใหม่ และยังสะดวกเมื่อต้องทำการยืนยันตัวตนต่อเจ้าหน้าที่อีกด้วย
6. ควรพกถุงผ้า หรือถุงใส่ของไปเองในการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะเมื่อช้อปในซุปเปอร์มาเก็ต เพราะจะไม่มีถุงให้ หรือจะต้องซื้อถุงเพิ่มแยกต่างหาก และต้องรีบแจ้งแคชเชียร์ก่อนว่ามีถุงมาเอง มิฉะนั้นจะถูกคิดเงินค่าบริการซื้อถุงเพิ่ม อีกทั้งแคชเชียร์ในเยอรมันคิดเงินรวดเร็วมาก เรียกได้ว่าเร็วแบบติดจรวด หากไม่มั่นใจว่าตัวเองจะแพ็คของใส่ถุงได้ทัน แนะนำให้นำของที่คิดเงินแล้วใส่ตะกร้าหรือรถเข็นก่อน คิดเงินเสร็จแล้วค่อยเข็นไปแพ็คสินค้าใส่ถุงในบริเวณที่ไม่วุ่นวายหรือขวางทางคนอื่น
7. หัวปลั๊กไฟที่เยอรมนี เป็นหัวกลมแบบ EU จะไม่มีการใช้หัวแบนเหมือนที่ไทย หากจะพกเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จมือถือ แล็ปท็อป ไดร์เป่าผม ฯลฯ ควรเตรียมหัวแปลงปลั๊กสำหรับ travel ไปด้วย
8. ห้องน้ำที่เยอรมนีหายากมาก ส่วนใหญ่จะมีการเก็บค่าบริการ และห้องน้ำก็มักจะไม่สะอาด ควรวางแผนการเข้าห้องน้ำให้ดี ๆ หากเจอห้องน้ำที่สะอาด ห้องน้ำฟรีในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ควรเข้ากันเหนียวไว้ก่อน ไม่ว่าจะปวดหรือไม่ปวดก็ตาม และให้ดีควรพกกระดาษทำความสะอาดเฉพาะที่ รวมไปถึงทิชชู่เปียก หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวเสมอ
9. ถังขยะในเยอรมนีหาได้ไม่ยาก บางแห่งอาจมีถังขยะตั้งอยู่ใบเดียว สามารถทิ้งขยะทุกประเภทลงไปรวมกันได้ แต่บางแห่งจะมีถังขยะตั้งเรียงกันหลาย ๆ ใบ โดยจะมีการระบุประเภทขยะไว้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นภาษาเยอรมัน อาจต้องมีความรู้ภาษาเยอรมันไว้บ้าง หรือโหลดแอปภาษาติดมือถือไว้เลย ช่วยเพิ่มสะดวกได้หลายอย่างเลยทีเดียว
10. คนเยอรมันส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยชาวเยอรมันในเมืองใหญ่ ทำให้พวกเขาเข้าใจและพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่ถ้าเป็นชนบท ชุมชนเมืองเล็ก ๆ อาจต้องใช้แอปแปลภาษากันบ้าง แต่ถ้ามีความรู้ด้านภาษาเยอรมันอยู่บ้าง ก็ไม่น่าเป็นห่วง
11. ระบบขนส่งในเมืองเยอรมันสะดวกและครอบคลุม สามารถโหลดแอปการเช็กเดินทางไว้ในมือถือได้เลย เช็กระบบขนส่งสาธารณะ อย่าง รถไฟฟ้า รถบัส ได้สบาย ๆ หรือเรียกรถผ่านอป UBER ก็สะดวก ไม่จำเป็นต้องพึ่ง taxi ซึ่งมีราคาแพงมาก และไม่แนะนำการเช่ารถขับในเมืองเยอรมนี เพราะหาที่จอดยากมาก ๆ แถมค่าที่จอดก็โหดพอควร ยังไม่นับกฏจราจรที่อาจไม่คุ้นเคย ทำให้ต้องเสียค่าปรับที่แพงสุด ๆ อาจหมดสนุกในทริปนี้ไปเลย
12. ร้านค้า ซุปเปอร์มาเก็ต และสถานที่หลายแห่งในเยอรมนี ส่วนใหญ่ปิดให้บริการวันอาทิตย์ จึงต้องวางแผนเรื่องอาหารและเครื่องดื่มให้ดี ๆ ไม่เช่นนั้น อาจได้ทานอาหารตาม Restaurant ที่ราคาสูงกันทั้งวัน ดังนั้น ถ้าวางแผนไม่ดี เงินกระฉอกออกนอกกระเป๋าแทบหมดตัวแน่ ๆ