หน้าที่หลักของตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตคืออะไร ทำไมจึงควรเปลี่ยนมาใช้ตู้คอนซูมเมอร์
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ไฟฟ้า คือส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในสถานที่หรือนอก กิจกรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่ล้วนแต่ต้องใช้ไฟฟ้าแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในเรื่องการให้แสงสว่าง ทำงาน ทำอาหาร ปรับอุณหภูมิ ให้ความบันเทิง และใช้ประโยชน์ในอีกหลาย ๆ ด้าน ทำให้ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกอาคารบ้านเรือนต้องมี ทำให้ต้องมีอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าเชื่อมโยงจากโรงงานไฟฟ้า ซึ่งเมื่อก่อนเราจะใช้ระบบการจ่ายไฟด้วยคัตเอาท์ แต่ปัจจุบันหลาย ๆ แห่งได้มีการเปลี่ยนมาใช้ Consumer Unit หรือ ตู้คอนซูมเมอร์แทนคัตเอาท์ แล้วเจ้าตู้คอนซูมเมอร์คืออะไร จุดประสงค์หลักของตู้นี้มีไว้เพื่ออะไร ทำไมจึงควรเปลี่ยนมาใช้คอนซูมเมอร์ วันนี้เราจะรู้ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
![](https://allinadayblog.com/wp-content/uploads/2023/07/safety-breakers-home-safety.jpg)
ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตมีหน้าที่อะไร
คอนซูมเมอร์ยูนิต คือ ตู้ที่ใช้สำหรับรวบรวมอุปกรณ์ควบคุมระบบไฟฟ้าจากมิเตอร์ไฟฟ้าสู่อาคารหรือพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งมักจะเป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส อย่าง บ้าน หรือ ห้องพัก เป็นศูนย์รวมระบบไฟฟ้า มีหลายขนาด หลายช่องสำหรับติดตั้งเบรกเกอร์ย่อยหรือวงจรย่อย แต่ขนาดที่นิยมใช้ทั่วไปจะมีตั้งแต่ 4 – 18 วงจร ทั้งแบบบัสบาร์เดี่ยวและบัสบาร์แยก
ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้าน อาคาร หรือสำนักงานต่าง ๆ โดยมีลักษณะเป็นกล่อง จึงมักเรียกกันสั้น ๆ ว่า ตู้ไฟ หรือ กล่องไฟ ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากกระแสไฟฟ้า และช่วยให้อุปกร์ต่าง ๆ ภายในกล่องเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะเรียงกันอยู่ในแถวเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมและการดูแลรักษา โดยภายในตู้ประกอบไปด้วย เมนเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Main Circuit Breaker) ที่ทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟเข้า – ออกทั้งหมด เซอร์กิตเบรกเกอร์ย่อย (Branch Circuit Breaker) สำหรับควบคุมวงจรย่อย และ อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต RCD (Residual Current Devices) / RCBO (Residual Current Circuit Breaker with Overcurrent Protection) /RCCB รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
![](https://allinadayblog.com/wp-content/uploads/2023/07/electrical-part-accessories-control-cabinet-industrial-plants-control-power-distributor.jpg)
ตู้คอนซูมเมอร์มีกี่แบบ
ตู้ไฟหรือตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตมี 2 ประเภทด้วยกัน โดยมีข้อดีของแบ่งจากการติดตั้งเป็นหลัก ได้แก่
- ตู้คอนซูมเมอร์แบบปลั๊กออน (Plug On Type) ข้อดีของตู้คอนซูมเมอร์ประเภทนี้ คือ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟจากเมนเบรกเกอร์ไปยังเบรกเกอร์ลูกย่อย ไม่ต้องร้อยสายไฟให้ยุ่งยาก สะดวกและรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่มีความปลอดภัยสูง เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร สนามแม่เหล็กจะเหนี่ยวนำดูดส่วนคลิปขาหนีบของเบรกเกอร์ให้ยึดเกาะแท่งบัสบาร์แน่นมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดประกายไฟที่อาจนำไปสู่การเกิดระเบิด หรือเหตุไฟไหม้
- ตู้คอนซูมเมอร์แบบเดินรางปีกนก (Din Rail Type) เป็นการติดตั้งแบบเก่า ต้องเดินสายระหว่างเมนเบรกเกอร์และเบรกเกอร์ลูกย่อย โดยการนำเบรกเกอร์ไปยึดติดกับรางเหล็ก จากนั้นจึงใช้สายไฟเชื่อมต่อ ซึ่งจะต้องติดตั้งสายดินให้ได้มาตรฐานการไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูด ไฟช็อต สามารถออกแบบรูปวงจรได้หลากหลายเหมือนกับ Plug On มีความคงทนสูง อายุการใช้งานนานกว่า แต่ข้อเสียคอนซูมเมอร์รางปีกนกคือใช้เวลานาน และค่าบริการติดตั้งสูง
แต่ไม่ว่าจะเป็นตู้ไฟชนิดใดก็ตาม จะต้องติดตั้งในพื้นที่สามารถเข้าดูแลได้ง่าย สะดวกต่อการซ่อมแซม ควรห่างจากน้ำ อย่าให้มีความชื้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกไฟช็อต กรณีที่ใช้ฟิวส์ควบคุมไฟฟ้าแล้วฟิวส์เกิดขาด ให้เปลี่ยนฟิวส์ใหม่และเปลี่ยนเป็นเซอร์กิตเบรกเกอร์ ไม่ควรใช้วัสดุอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทองแดง หรือตัวนำชนิดใดก็ตามมาเชื่อมต่อแทนฟิวส์ และหากมีตู้คอนซูมเมอร์มากกว่า 1 ตู้ ควรติดตั้งรวมไว้ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการควบคุม รวมไปถึงการซ่อมบำรุง และควรปิดเมนเบรกเกอร์ทุกครั้งก่อนเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต
![](https://allinadayblog.com/wp-content/uploads/2023/07/panel-electric-power-distributor-with-block-switches-fuses.jpg)
การเลือกซื้อตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตต้องพิจารณาอะไรบ้าง
วิธีการเลือกตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตควรพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้
จำนวนช่องของตู้
Consumer Unit จะมีช่องไว้ติดตั้งเบรกเกอร์วงจรย่อยที่ใช้เดินสายไฟในบ้าน ซึ่งจะมีจำนวนช่องให้เลือกตั้งแต่ 4 ช่อง ไปจนถึง 20 ช่อง ขึ้นอยู่กับรุ่นและแบรนด์ โดยแต่ละช่องจะรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งแบบชิ้นเดียว เช่น ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ หรือหลายชิ้นอย่าง ปลั๊กไฟ หลอดไฟ แล้วแต่วงจรที่ถูกออกแบบในการใช้งาน สามารถเลือกได้ตามจำนวนช่องที่ต้องการ โดยควรเผื่อไว้ประมาณ 2 – 3 วงจรสำหรับติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคต
หาซื้อได้ง่าย
ควรเลือก Consumer Unit ที่หาซื้อได้ง่าย มีแหล่งจำหน่ายทั่วไป สะดวกต่อการหาซื้อเปลี่ยนในกรณีเบรกเกอร์ชำรุด หรือเมื่อต้องการเพิ่มวงจรภายในบ้าน
แบรนด์มีคุณภาพดีและน่าเชื่อถือ
ข้อสำคัญในการเลือกซื้อตู้ไฟ Consumer Unit คือ คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ โดยควรเลือกซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์มีชื่อเสียง รู้จักทั่วไปในวงการไฟฟ้า มีมาตรฐาน มอก. และมาตรฐานสากล IEC รับรอง เพราะการันตีได้ถึงคุณภาพของแบรนด์ มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน
ควรเลือกตู้คอนซูมเมอร์ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า ป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ไม่เป็นวัสดุลามไฟหรือติดไฟง่าย แข็งแรง ทนทาน ต่อการใช้งาน
![](https://allinadayblog.com/wp-content/uploads/2023/07/Square-D-EL-Consumer-Unit-e1653729351794-pph2t0hf9s6fjd7nonduxvpa7sbh8dabs7eorr6mtc.jpeg)
แหล่งจำหน่ายน่าเชื่อถือ
นอกจากเลือกแบรนด์สินค้าน่าเชื่อถือแล้ว ควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือด้วย เพื่อจะได้มั่นใจว่าได้สินค้าแบรนด์แท้ มีความปลอดภัยในการใช้งาน และควรมีทีมงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรง วิศวกร หรือช่างไฟมืออาชีพ สามารถให้คำแนะนำในการเลือกวัสดุให้ตรงกับการใช้งานได้อย่างตรงจุด อย่าง SQD Groups อุปกรณ์ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น Schneider , BCC หรือว่า Yazaki พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำแนะนำ ได้อย่างครบถ้วน ครบทุกความต้องการอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งภายในอาคารและโรงงานขนาดใหญ่